
10 อันดับมือถือที่ดีที่สุด 2020
โทรศัพท์มือถือ Smart phone ถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกของคนในทุกเพศ ทุกวัย ตอนนี้เลยก็ว่าได้ เดินทางขึ้นเครื่องบินหรือลงรถลงเรือทุกคนก็ต่างใช้ โทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในการทำงาน ติดต่อสื่อสาร การถ่ายภาพ ดูหนัง ฟังเพลง อ่านนิตยสาร แชร์เรื่องราวประสบการ์ณให้กับคนที่เรารักได้จากทุกมุมของโลก
หากใครกำลังมองหาซื้อโทรศัพท์มือถือที่น่าใช้แล้วราคามิตรภาพหรือไม่รู้ว่าจะซื้อโทรศัพท์รุ่นไหนดีสามารถใช้งานได้ง่ายมีหลายราคาในท้องตลาดตั้งแต่ราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้จนไปถึงราคาที่สูง วันนี้เราจะมาแนะนำ 10 อันดับมือถือที่ดีที่สุด 2020 ไปติดตามกันได้เลยค่าาาา
iPhone 11 Pro
ตัวใหม่มาแรงขณะนี้และเป็นที่นิยมกันอย่างมาก จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก IPONE 11 มาด้วยความล้ำสมัยอย่างไม่มีใครเกินค่ะ ข้อมูลตัวเครื่อง เป็นจอแสดงผล IPS-LCD 24-bit 16 ล้านสี ทำให้ง่ายต่อการพกพาเป็นอย่างมาก เพียงแค่มือถือเครื่องเดียวก็ตอบโจทย์การถ่ายภาพสวยและคมชัดไม่ต่างไปจากกล้องตัวใหญ่ๆ เลยค่ะ อีกทั้งสามารถรองรับโหมดกลางคืน (Night Mode)
หน้าจอมุมมองกว้าง (Wide Display) กว้างได้มากถึง 6.1 นิ้ว (แนวทะแยง) ความละเอียดของเขาจะอยู่ที่ 828 x 1792 พิกเซล (326 ppi) นับว่าละเอียดมากๆ เลยค่ะ
และเป็นข่าวดีสำหรับใครที่ไม่ค่อยชอบไปดูจอกระจก กันแตก ใส่ฟังก์ชั่นเสริมเยอะๆ สำหรับรุ่นนี้เขาออกแบบมาเป็นประเภทจอ หน้าจอกระจกแข็งที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนบนหน้าจอได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย พร้อมทั้งระบบเซ็นเซอร์ก็รองรับการทำงานได้อย่างอัจฉริยะมากเลยค่ะ ความล้ำสมัยของเขายังรองรับระบบจดจำใบหน้า (Face Detection) และการตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง (Accelerometer) ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity) ระบบเซนเซอร์หมุนภาพ (Gyroscope) ระบบวัดความกดอากาศ (Barometer)
ส่วนทางเทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล เป็นระบบ 2G: EDGE/GPRS 3G และ 4G สามารถใช้งาน Nano-SIM และใช้งาน eSIM รองรับ 2 ซิมการ์ด เป็นเรื่องว้าวมากสำหรับใครที่มองหาไอโฟนฟังก์ชั่นเจ๋งและยังรองรับสองซิมนะคะ พกพาไปไหนเพียงเครื่องเดียวก็สะดวกอย่างง่ายดายเลยทีเดียว
นอกจากนี้ก็มีระบบปฏิบัติการ (OS, CPU) ระบบปฏิบัติการ: iOS 13 พร้อมด้วยหน่วยประมวลผล : A13 Bionic chipหน่วยความจำ RAM 4GB ROM 64GB และระบบเชื่อมต่อการหาตำแหน่ง: Assisted GPS WiFi 802.11 a/b/g/n/ac พร้อมทั้งมีจุดกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบพกพา (Portable Wi-Fi Hotspot) เชื่อมต่อไร้สายระหว่างอุปกรณ์โดยตรง (Wi-Fi Direct) และ Bluetooth 5.0 USB Lightning
ส่วนทางฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย เอาใจสายถ่ายภาพกันมาแบบเต็มๆ ค่ะ เขามีฟังก์ชั่นลบจุดตาแดง (Red-eye Reduction) พร้อมทั้งระบบซูมดิจิตอล 5x เท่า (5xx Digital Zoom) และระบบซูมออฟติคอล 2x เท่า (2xx Optical Zoom) สามารถบันทึกวีดีโอระดับ HD และบันทึกวีดีโอระดับ 4K ด้านของเสียงนั้นมีลำโพงเสียงสเตอริโอ (Stereo speakers) และ ระบบเสียง Dolby Atmos อย่างดีทีเดียวค่ะ การรองรับแบตเตอรี่เทคโนโลยีเพิ่มความเร็วในการชาร์จ มีระบบชาร์จไร้สายในตัว แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-ion 3,110 mAh (Standard Battery)
เว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า : Lazada.co.th
Samsung Galaxy Note 10 Plus
จุดเด่นของ Samsung Galaxy Note นี้นับว่าเป็นสิ่งที่ล้ำไม่มีใครเกินเช่นกัน ขนาดตัวเครื่อง 162.3 x 77.2 x 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 196 กรัม (5G 198 กรัม) หน้าจอ Dynamic AMOLED ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด QHD+ รองรับ HDR10+ สแกนนิ้วใต้หน้าจอ Ultrasonic
กล้องหน้าความละเอียด 10MP รูรับแสง f/2.2 โหมด Night Shot ขณะที่กล้องหลัง Quad lens มีเลนส์มุมกว้าง Ultrawide 123 องศา ความละเอียด 16MP รูรับแสง f/2.2 เลนส์หลัก มุมกว้าง ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.5 & 2.4
เลนส์เทเลโฟโต้ ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.1เลนส์ชัดลึก DoF พร้อมทั้งชิปประมวลผล Exynos 9825 RAM 12GB ROM 256GB UFS 3.0 (รุ่น 5G 256GB/512GB/1TB) รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB พร้อมทั้งระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย One UI ระบบเสียง Dolby Atmos ลำโพงสเตอริโอ AKG ไมโครโฟน 3 ตัว (บน, ล่าง และด้านหลัง) แบตเตอรี่ 4,300mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W (อะแดปเตอร์ 45W แยกจำหน่าย) ชาร์จไร้สาย 20W PowerShare 15W ถาดซิมการ์ดแบบ Hybrid slot การเชื่อมต่อ WiFi 6, Bluetooth 5.0, NFC มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น IP68 ขายในไทย 3 สี ได้แก่ สีรุ้ง Aura Glow, สีขาว Aura White, สีดำ Aura Black
สำหรับรุ่นนี้นะคะ ออกมาโดยจะมีให้เลือก 2 ขนาด สำหรับ Note10 จะมีขนาดหน้าจอที่ 6.3 นิ้ว และ Note10+ จะมีขนาดหน้าจอที่ 6.8 นิ้ว ขนาดใหญ่กว่า Note9 รุ่นก่อนหน้าถึง 0.4 นิ้ว แต่ตัวเครื่องนั้นบางลงเหลือ 7.9 มิลลิเมตร จาก 8.8 มิลลิเมตร เป็นหน้าจอ Dynamic AMOLED ความละเอียด QHD+ รองรับ HDR10+ สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ Ultrasonic แบบเดียวกันกับ Galaxy S10 ซึ่งหน้าจอของ Note10+ นี้ ทาง DisplayMate ได้ให้คะแนนหน้าจอไว้ที่ A+ ถือเป็นหน้าจอสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในตอนนี้
นอกจากตัวเครื่องจะบางลงแล้ว ยังตัดปุ่ม Power ที่อยู่ด้านขวาของตัวเครื่องออก ย้ายมาใช้งานร่วมกับปุ่ม Bixby โดยจะทำงานเป็นปุ่ม Power เป็นหลัก และสามารถตั้งค่าสำหรับใช้งานผู้ช่วย Bixby เพิ่มเติมกันได้ และน่าเสียดายที่รุ่นนี้ตัดช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรออกไป แต่ก็ได้แบตเตอรี่เพิ่ม 100mAh
กาแลคซี่โน้ต ย่อมคู่กับปากกา S Pen มาในรุ่นนี้ก็ได้มีการปรับปรุงให้มีความสามารถมากขึ้น พร้อมกับฟีเจอร์การจด การเขียนต่างๆ ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนทำงานได้ทุกที่ทุกเวลามากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการแปลงข้อความที่เราจดใน Samsung Notes มาเป็นตัวอักษร ซึ่งสามารถก๊อปปี้ส่งต่อ หรือจะแปลงแล้ว export ออกมาเป็นไฟล์ MS Word หรือ PDF ก็ได้ จากที่เมื่อก่อนจะต้องมานั่งพิมพ์ใหม่ตามหลัง ใน Note10+ ก็แค่แปลง แล้วก็มีแก้ไขบางคำบางตัวอักษรที่ไม่สามารถอ่านลายมือของเราได้จริงๆ
Screen off memo ก็มีการเพิ่มสีให้เลือกใช้ถึง 5 สี โดยที่ไม่จำเป็นต้องเลือกสีของตัวเครื่องแล้ว สามารถครีเอทสร้างสรรค์ได้ตั้งแต่ยังไม่ปลดล็อคหน้าจอ ในส่วนความแม่นยำของการแปลงตัวเขียนมาเป็นตัวอักษรนั้น ยกให้มีความแม่นยำที่สูงมาก เพราะมีการผิดแค่ไม่กี่ตัวอักษรเท่านั้น และตัวที่ผิด ก็จะเป็นการเขียนที่ไม่ชัดเจน หากต้องการให้แปลงตัวอักษรง่ายขึ้น สระ วรรณยุกต์ และตัวอักษร จะต้องไม่ชิดติดกัน นอกจากนี้ยังสามารถใช้งาน S Pen ควบคุมการทำงานกล้องได้มากขึ้นกว่าการเป็นรีโมทชัตเตอร์ โดยทางซัมซุงได้ใส่เซ็นเซอร์ gyroscope เข้ามาเพื่อให้เราออกแอคชั่นต่างๆ ในการควบคุมการทำงานของโหมดกล้อง ซึ่งเรียกว่า Air actions
ในการถ่ายรูป ตัวกล้องยังมีฟีเจอร์ Shot suggestion เป็นการแนะนำการถ่ายรูปซึ่งจะช่วยให้องค์ประกอบของภาพดีขึ้น โดย AI Machine Learning เรียนรู้ภาพถ่ายมากกว่า 100,000,000 ภาพมาคอยแนะนำ ตรงนี้เหมาะมากสำหรับมือใหม่หัดถ่ายรูปซึ่งได้คอยเรียนรู้การจัดวางองค์ประกอบของภาพได้ และฟีเจอร์นี้ไม่จำเป็นต้องทำตามก็ได้ หรือเลือกปิดการใช้งานก็ได้เช่นกัน
เป็นสมาร์ทโฟนที่ปรับปรุงเพื่อไลฟ์สไตล์คนทำงานและไลฟ์สไตล์ความบันเทิงได้อย่างลงตัว ทำให้สามารถใช้ปากกาจดแล้วนำไปใช้งานต่อไปรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องมาพิมพ์สรุปใหม่ภายหลัง ตัวกล้องก็ทำได้ดีขึ้นทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว อีกทั้งยังตัดต่อวิดีโอในเครื่องได้ดีขึ้น รวมถึงลูกเล่นที่เกี่ยวข้องกับวิดีโอก็ทำได้มากขึ้นเช่นกัน หน้าจอใหญ่ สวย คมชัด ใช้งานแล้วสบายตา
เว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า : Lazada
Samsung Galaxy S20
มาแรงมากสำหรับสมาร์ทโฟนซี่รี่ย์นี้ Samsung galaxy S20 ที่เปิดตัวมาพร้อมกับรุ่น Samsung galaxy S20+ และรุ่น Samsung galaxy S20Ultra 5G บอกได้เลยว่ารุ่นนี้ดีไซน์กะทัดรัด จับกระชับใช้งานได้ง่ายพอดีกับมือ
เหมาะสำหรับใครที่ชอบใช้สมาร์ทโฟนมือเดียว นิ้วเดียวปัดได้สบาย ๆ เพราะขนาดของหน้าจอเพียง 6.2 นิ้วเท่านั้น หน้าจอรุ่นนี้คมชัดด้วยความละเอียดFull HD Plus จะดูหนังหรือเล่นเกมส์ได้อรรถรสดีมาก รุ่นนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 4,000mAh ถือว่าใช้งานได้ค่อนข้างนานแน่นอนแถมการชาร์จที่เร็ว 25 วัตต์
ใครที่เป็นคอเกมส์ไม่ต้องห่วงความเร็วของRAMอยู่ที่8 GB และ ROM ที่สูงถึง128 GB ถือว่าสเปคแรงเลย สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปหรือถ่ายวีดีโอเพราะกล้องสมาร์ทโฟนตัวนี้มาด้วยกันถึง 3 ตัว สามารถถ่ายวีดีโอได้ด้วยคุณภาพ 8K และ 4K คือมันดีมากซูมได้ถึง 30 เท่าและยิ่งไปกว่านั้นมีระบบOIS ที่ป้องกันการสั่นไหวของภาพหรือวีดีโอขณะถ่ายได้อีกด้วยแยกคนได้ออกจากฉากหลังได้ ภาพละเอียดคมชัดสุด ๆ ไปเลย
Huawei P30 Pro
Huawei P30 Pro สมาร์ทโฟนที่โดดเด่นมากที่สุดเรื่องกล้อง ซึ่งแน่นอนว่าได้รับความนิยมมากที่สุด ณ ตอนนี้ แถมยังได้ขึ้นเป็นอันดับ 1 ที่เป็นกล้องที่ดีที่สุดจาก Dxomark อีกด้วย นอกจากนี้ การดีไซน์มีความทันสมัย, กล้องซูม Periscope ที่ไม่เหมือนใคร และมีความสามารถในการถ่ายภาพตอนกลางคืนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด, ความอึดของแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และมีการชาร์จแบบไร้สาย กำลังสร้างจุดสูงสุดใหม่ของการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน ซูมเพื่อสำรวจความลึกลับของท้องฟ้ายามค่ำคืน ดูนกอินทรีบินวนอยู่เหนือต้นไม้ หรือสำรวจรายละเอียดที่ประณีตของคริสตัล เก็บภาพสิ่งที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น และสร้างสรรค์จินตนาการของคุณเพื่ออนาคต
ด้วยแรงบันดาลใจจากท้องฟ้าที่น่าอัศจรรย์ HUAWEI P30 Pro สะท้อนให้เห็นสีสันอันน่าทึ่งของแสงและอวกาศ ด้วยความงามของรุ่งอรุณสีกุหลาบ ท้องฟ้าตอนกลางวัน แสงออโรราอันลึกลับ และความมืดมิดยามค่ำคืน เห็นโลกใบนี้อย่างครบครันด้วยระบบกล้อง Leica Quad ระบบกล้องนี้รวมถึงเลนส์ SuperZoom, กล้อง Super Sensing ความละเอียด 40 MP, เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 20 MP, และกล้องหัวเว่ย TOF ทั้งหมดจะช่วยให้คุณมีอิสระอย่างเต็มที่ในการเก็บช่วงเวลาที่แสนพิเศษ
เลนส์เทเลโฟโต้รุ่นใหม่ขนาดกะทัดรัดช่วยให้สามารถซูมออปติคอลได้มากขึ้นโดยยังคงคุณภาพของภาพไว้ได้เป็นอย่างดี และเมื่อรวมกับความอิ่มตัวของสี (Saturation) จากกล้องหลักที่มีความละเอียด 40 MP ความเสถียรของ OIS เลนส์ SuperZoom ที่ให้การซูมแบบไฮบริดถึง 101 เท่าให้คุณเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยความละเอียดและรายละเอียดที่สมบูรณ์ นอกจากนี้ยังนำดวงจันทร์อยู่ตรงหน้าคุณด้วยการซูมสูงสุดถึง 50 เท่า กฎการตรวจจับสีได้รับการเขียนขึ้นใหม่โดย HUAWEI จาก RGGB ถึง RYYB เพื่อให้แสงในทุกภาพมากขึ้น ที่ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ HUAWEI SuperSpectrum ซึ่งให้แสงเพิ่มขึ้น 40%2, 2 ISP ของ Kirin 980 และอัลกอริธึมที่เรียนรู้ได้ จะช่วยคุณในการเก็บความทรงจำที่ชัดเจนตั้งแต่กลางวันจนถึงกลางคืน
ค้นพบความงดงามที่ซ่อนอยู่ในตอนกลางคืนด้วยค่า ISO 409,600 บน HUAWEI P30 Pro แม้ในสถานการณ์ที่มืดสุดขีดคุณสามารถค้นพบสีสันที่หลากหลาย
ขับเคลื่อนโดย HUAWEI TOF Camera ที่ทำการวัดความลึกของวัตถุด้วยความแม่นยำและ AIS Long Exposure Shot รูปบุคคลของคุณจะคมชัดจะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสมบูรณ์ พื้นหลังจะเบลออย่างต่อเนื่องพร้อมเอฟเฟกต์ที่แตกต่างกันเพื่อมอบโบเก้ระดับมืออาชีพ พร้อมทั้งการวิเคราะห์แสงแบ็คไลท์และรูปถ่ายที่มีแสงน้อยนับแสนครั้ง ทำให้ HUAWEI สามารถ พัฒนา AI HDR+ ที่มอบความคมชัดในภาพถ่ายของคุณด้วยการใช้ AI ประเมิน เฟรมภาพต่างๆ และแบ่งส่วนของภาพถ่าย เพื่อรวมคุณสมบัติที่ดีที่สุดของแสงและสีที่ต่างกันในเลเยอร์ต่าง ๆ เพื่อให้กล้องโฟกัสที่หน้าของคุณ
รองรับการถ่ายภาพแบบเลนส์มาโคร โลกนี้เป็นของคุณที่จะค้นพบได้จากระยะใกล้เพียง 2.5 ซม. กล้องหน้า 32 เมกะพิกเซลใน HUAWEI P30 Pro จะจดจำคุณได้อย่างชาญฉลาดเพื่อสร้างการเซลฟี่ที่สวยงาม โดยการวาดเส้นเค้าโครงใบหน้าของคุณให้มีความสว่างและความคมชัดอย่าง แม่นยำ การเซลฟี่ของคุณจะเปล่งปลั่งด้วยรายละเอียดที่น่าตื่นตาตื่นใจ แม้ในที่ย้อนแสง หรือระหว่างงานปาร์ตี้ยามค่ำคืนโหมดซูเปอร์ไนท์เซลฟี่ เสริมพลังกล้องหน้าให้จับภาพโครงหน้าได้คมชัด กระจ่างขึ้น ช่วยให้หน้าของคุณสว่างขึ้นขณะที่พื้นหลังยังคมชัดอยู่ แม้ในที่แสงน้อย ก็ยังก็เซลฟี่ได้สวย สว่าง ชัด
เว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า : Lazada
Samsung Galaxy S10 และ Samsung Galaxy S10+
สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นนี้ ถือว่าเป็นโทรศัพท์ Android ที่ดีที่สุด มีหน้าจอ Super AMOLED ที่ดีที่สุด พร้อมกล้องที่มีคุณภาพ มีช่องเก็บหูฟังแบบขยายได้ และมีการชาร์จแบบไร้สาย รวมไปถึงช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ขนาดตัวเครื่อง 149.9 x 70.4 x 7.8 มิลลิเมตร หน้าจอ Dynamic AMOLED หน้าจอแบบ Infinity-O ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3040 พิกเซล อัตราส่วน 19:9 กระจก Gorilla Glass 6 ระบบสแกนนิ้วใต้หน้าจอ Ultrasonic Fingerprint Sensor (เทคโนโลยีการสแกน 3 มิติ) ชิปเช็ต Exynos 9820 แรม/พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 8GB/128GB, 8GB/512GB
กล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์หลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (รูรับแสง f/1.5, OIS, มุมกว้าง 77 องศา) +เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (รูรับแสง f/2.2, มุมกว้าง 123 องศา) + เลนส์ Telephoto 12 ล้านพิกเซล (รูรับแสง f/2.4, OIS, ซูม 2x, มุมกว้าง 45 องศา)
กล้องหน้า Selfie Camera ความละเอียด 10MP Dual Pixel AF รูรับแสง f/1.9 พร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย One UI และการเชื่อมต่อพอร์ต USB-C มีช่องต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และระบบกันน้ำมาตรฐาน IP68 ค่ะ
แบตเตอรี : 3,400 mAh รองรับ Fast charging, Fast Wireless Charging 2.0 และเทคโนโลยี Wireless PowerShare
เรื่องดีไซน์กันก่อน หน้าจอมาเป็นแบบจอเจาะรู หรือที่เรียกว่า Infinity-O ซึ่งในคลิปเปิดตัวทางซัมซุงได้บอกไว้ว่าไม่อยากให้ซ้ำกับใคร (เทรนด์หน้าจอ Notch และ Rain drop) ก็เลยมีการนำหน้าจอแบบนี้มาใช้ ซึ่งทำให้เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มีการใช้หน้าจอ AMOLED แบบเจาะรู
ทางด้านการแสดงผลของหน้าจอ เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่รองรับการแสดงผลด้วย HDR10+ และมีสีสมจริงที่เหมือนตาเห็นมากที่สุด (0.4 JNCD) มี Contrast 2,000,000 : 1 ความสว่าง 800 nits และที่ดีที่สุดก็คือมีระบบ AI ที่ลดแสงสีฟ้าลง 42% โดยที่ไม่ทำให้จอเหลือง ทำให้เรายังมองเห็นสีสันบนหน้าจอได้สมจริงมากที่สุด
การใช้หน้าจอแบบนี้ทำให้ลดขนาดตัวเครื่องลงมาได้ เพราะไม่ต้องมีขอบหน้าจอด้านบน มีความหนาเพียงแค่ 7.8 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาขึ้นกว่าเดิม ใครที่ใช้ Galaxy Note 8, Note 9 หรือรุ่นก่อนหน้าอย่าง Galaxy S9+ มาจับจะรู้สึกได้ว่าเบากว่าเดิมมาก
ตัวฟิล์มกันรอยก็ติดมาให้เลย เหตุเพราะรุ่นนี้ได้เปลี่ยนการสแกนลายนิ้วมือมาไว้ใต้หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ Ultrasonic Fingerprint Sensor ที่จะมีปัญหากับการใช้งานเมื่อติดฟิล์มกระจก ทางซัมซุงก็เลยทำการติดมาให้เลย เปิดกล่อง เปิดเครื่อง ก็ใช้งานได้ทันที ส่วนข้อดีก็คือสามารถสแกนลายนิ้วมือได้แม้นิ้วเปียกน้ำ การสแกนลายนิ้วมือแบบนี้จะเป็นการใช้คลื่นเสียงมาช่วยสแกนแบบ 3D ต่างจากเดิมที่เป็นแบบ 3D นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องของความปลอดภัยเพราะไม่สามารถใช้ลายนิ้วมือปลอมมาสแกนได้
สีที่ได้มาเป็นสี Prism Black และ Prism White หลังจากช่วงที่ผ่านมาเรามักจะเจอสมาร์ทโฟนฝาหลังไล่เฉดสีสวยๆ แต่สำหรับ Galaxy S10+ และ Galaxy S10 นี้แตกต่างออกไป สี Prism White จะแสดงสีแตกต่างกันไปเมื่อมีแสงมาตกกระทบ ทำให้โดดเด่นและสวยงามมากขึ้น และขอบอะลูมิเนียมสีเงินช่วยทำให้ตัวเครื่องดูหรูหรามากขึ้น ส่วนสี Prism Black ก็เป็นสีดำสวยงามแบบเรียบๆ ใครที่ไม่อยากเหมือนใคร แนะนำสี Prim White และ Prism Green ส่วนถ้าอยากได้ให้ต่างออกไปอีกก็ต้องไปรุ่นพิเศษ Ceramic กันเลย
ถาดใส่ซิมการ์ดยังเป็นแบบไฮบริดจ์ ต้องเลือกว่าจะใช้ซิมการ์ดคู่กับเมมโมรี่การ์ดหรือจะใช้งาน 2 ซิม
จุดเด่นของรุ่นนี้คนชอบถ่ายรูปน่าจะชอบมากขึ้น กล้องหลังตัวใหม่ มีมา 3 เลนส์ แต่ละเลนส์ก็ทำหน้าที่แตกต่างกันไป เช่น อยากเก็บภาพมุมกว้างก็ใช้เลนส์ Ultrawide ที่ทำให้ได้ภาพมุมกว้างขึ้น อยากซูมเข้าไปก็ใช้เลนส์ Telephotos ที่ซูมได้ 2x แบบไม่เสียรายละเอียด แต่สิ่งที่ช่วยทำให้ถ่ายรูปได้สนุกขึ้นก็คือ ระบบ AI ที่ช่วยปรับภาพให้เข้ากับวัตถุที่เราถ่าย ซึ่งเรียกว่า Scene Optimizer ในรุ่นใหม่นี้มีการเพิ่มซีนเข้ามาอีก 10 ซีน เป็นทั้งหมด 30 ซีน
และยังมี Shot suggestion มีการแนะนำการถ่ายรูปซึ่งจะช่วยให้องค์ประกอบของภาพดีขึ้น ทำให้ภาพดูน่าสนใจมากขึ้น โดย AI Machine Learning เรียนรู้ภาพถ่ายมากกว่า 100,000,000 ภาพมาคอยแนะนำ ตรงนี้เหมาะมากสำหรับมือใหม่หัดถ่ายรูป พร้อมทั้งการรองรับระบบ BRIGHT NIGHT ถ่ายภาพกลางคืน ถือว่ากล้องของ Galaxy S10+ และ Galaxy S10 ทำได้ดี ไม่ผิดหวัง
เว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า : lazada