10 อันดับเซรั่มบำรุงผม ดูแลเส้นผมให้ดูดีที่ดีที่สุดในปี 2020

🏆10 อันดับเซรั่มบำรุงผม ดูแลเส้นผมให้ดูดีที่ดีที่สุดในปี 2020

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าการบำรุงผมจะช่วยให้คุณมีสุขภาพผมที่ดี แต่ยังมีสาว ๆ อีกไม่น้อยที่พยายามบำรุงผมด้วยวิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะอบไอน้ำ ทำทรีทเม้นท์ ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมสารพัดก็แล้ว แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร ผมก็ยังแห้งเสียอยู่เช่นเดิม วันนี้เราจะมาบอกสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้คุณต้องเหนื่อยฟรี กับการบำรุงผมแบบไม่เห็นผลให้ได้หายข้องใจกันค่ะ

1. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมขณะผมสกปรกหรือมีสารตกค้างจากผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมมากเกินไป

การบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมต้องทำกับผมที่สะอาด สารบำรุงจึงจะซึมซาบเข้าบำรุงทั้งเกล็ดผมและแกนผมได้ดี แต่หากผมสกปรก หรือมีสารเคมีจากผลิตภัณฑ์ตกแต่งทรงผมติดค้างอยู่บนเส้นผมมากเกินไป ก็จะทำให้สารอาหารจากผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่เรากำลังจะใช้ เข้าไปยังเส้นผมได้ยากยิ่งขึ้น และไม่สามารถบำรุงได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะบำรุงแค่ไหนก็ไม่เห็นผลเสียทีนั่นเองค่ะ

2. ใช้ออยล์เพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผม

ออยล์หรือน้ำมันที่ใช้บำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผมได้ จะต้องสามารถซึมเข้าสู่เส้นผมได้ ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น เช่น น้ำมันมะพร้าว ส่วนออยล์ส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถซึมเข้าบำรุงเส้นผมได้เลย นอกเสียจากเคลือบปิดเกล็ดผมเพื่อล็อกความชุ่มชื้นที่มีอยู่แล้วให้กับเส้นผมเท่านั้น เพราะฉะนั้นหากคุณใช้ออยล์กับผมที่แห้งอยู่แล้ว โดยไม่ได้ทำการบำรุงใด ๆ มาก่อน ก็เท่ากับว่าคุณกำลังเคลือบเส้นผมแห้ง ๆ ที่ไร้ความชุ่มชื้นไว้ด้วยน้ำมัน ทำให้มันเรียบและลู่ โดยตัวเส้นผมไม่ได้มีความชุ่มชื้นใด ๆ เลย ทั้งยังเป็นการปิดกั้นไม่ให้สารบำรุงอื่น ๆ เข้าถึงเส้นผมอีกด้วย จึงทำให้ผมอ่อนแอ เปราะบาง และเสี่ยงต่อการแห้งเสียมากขึ้นนั่นเอง

3. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมชนิด water based ที่ไม่สามารถเคลือบปิดเกล็ดผมได้         

ไม่เพียงแค่ออยล์ใส่ผมเท่านั้นที่ไม่อาจบำรุงผมได้ กระทั่งผลิตภัณฑ์บำรุงผมชนิด water based ที่นิยมใช้กันแพร่หลายก็บำรุงผมได้ไม่ดีนักเช่นกัน หากว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์ที่บำรุงโดยไม่สามารถเคลือบปิดเพื่อล็อกความชุ่มชื้นไว้กับเส้นผมได้ จึงทำให้สารบำรุงสามารถระเหยออกไปจากเส้นผมของเราได้นั่นเอง

4. บำรุงให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผมไม่เพียงพอ

เมื่อเรารู้สึกคอแห้ง นั่นคือการส่งสัญญาณของร่างกายว่ากำลังต้องการน้ำ เช่นกันกับเมื่อคุณพบว่าผมเริ่มแห้งกรอบ นั่นแสดงว่าผมยังได้รับการบำรุงไม่เพียงพอ จึงควรเพิ่มความถี่ในการบำรุงผมให้บ่อยครั้งขึ้น หรือบำรุงอย่างเข้มข้นลึกล้ำขึ้นตามแต่สภาพเส้นผมของคุณ

5. ละเลยการใช้ครีมนวดผมหลังสระผม

รู้หรือไม่ว่ายิ่งผมเปียกจะยิ่งแห้งเสียง่าย การสระผมจึงดูจะเป็นอะไรที่ขัดแย้งเล็ก ๆ กับการบำรุงผม เพราะในขณะที่คุณชำระล้างเส้นผมเพื่อกำจัดความสกปรกออกไป คุณก็จะสูญเสียความชุ่มชื้นในเส้นผมออกไปส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน แต่สามารถแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้ครีมนวดผมหลังสระผมทุกครั้ง และตามด้วยการบำรุงผมด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำนั่นเองค่ะ

6. ใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมเสมือนเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผม

อย่าลืมว่าคุณสมบัติหลัก ๆ ของผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมส่วนใหญ่ ไม่ได้ช่วยบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดี แม้จะมีผลิตภัณฑ์บางตัวที่มีคุณสมบัติทั้งสองด้าน คือทั้งจัดแต่งทรงและบำรุงเส้นผมในคราวเดียวกัน แต่ก็ไม่อาจใช้ทดแทนกันได้ ยิ่งเป็นผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมชนิด water based ซึ่งอาจดูเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และง่ายต่อการใช้งาน แถมยังอ้างสรรพคุณในการบำรุงผมไปพร้อม ๆ กันอีกต่างหาก แต่อย่างไรก็ดีผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ ซึ่งทำให้ผมแห้งได้ด้วยการพาความชุ่มชื้นออกไปจากเส้นผมในขณะที่มันระเหยออกไป รวมทั้งยังมีมิเนอรัล ออยล์ ที่จะทำให้ผมแห้งเสียได้ในระยะยาวอีกด้วย

7. ให้ความสำคัญกับรากผมมากกว่าปลายผม

ปลายผมจะเป็นส่วนที่แห้งที่สุด และอ่อนแอเสี่ยงต่อการแตกปลายที่สุด เพราะน้ำมันธรรมชาติที่หนังศีรษะของเราผลิตขึ้นไม่สามารถหล่อเลี้ยงไปได้จนถึงปลาย นอกจากนี้ส่วนปลายมักเป็นส่วนที่ถูกละเลยไปในยามที่เราบำรุงผมด้วย จึงไม่ควรลืมที่จะชโลมผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมจากโคนผมไปให้จรดปลาย โดยเน้นที่ปลายเป็นพิเศษเพื่อการบำรุงอย่างทั่วถึงด้วยนะคะ

8. บำรุงมากไปจนเกินเหตุ

แม้ผมจะแห้งกร้านมาก อันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าต้องการการบำรุงอย่างเร่งด่วน แต่การที่เราใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมมากเกินไปก็จะทำให้สารบำรุงทั้งหลายไม่สามารถซึมซาบลงสู่เส้นผมได้หมด ส่วนที่ตกค้างอยู่จึงทำให้ผมดูเหนียวเหนอะหนะตลอดเวลา แถมยังทำให้จัดทรงยากอีกด้วย จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณพอเหมาะจึงจะบำรุงผมได้ดี และพอเหมาะกับความยาวของเส้นผม ผมจึงจะสวย จัดทรงง่าย และได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่

9. ใช้เวลาบำรุงผมนานเพราะคิดว่าจะได้ผลที่ดีกว่า

ทรีทเม้นท์สำหรับเส้นผมบางชนิด เช่น การทำเฮนน่า ต้องใช้เวลาในการทำนาน แต่ก็มีทรีทเม้นท์ในการบำรุงผมส่วนใหญ่กลับไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนั้น คุณจึงไม่จำเป็นต้องหมักผมหรือทำทรีทเม้นท์ทิ้งไว้กับเส้นผมนาน ๆ ความคิดว่ามันจะช่วยให้ผมนุ่ม และชุ่มชื่นขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ ซึ่งความจริงแล้วเวลาเพียง 30 นาที หรือมากน้อยกว่านี้ตามแต่คำแนะนำที่ผลิตภัณฑ์ระบุมา ก็มากพอที่จะทำให้มันสามารถเข้าบำรุงเส้นผมได้อย่างล้ำลึกแล้ว คุณจึงสามารถทำตามเวลาที่ผลิตภัณฑ์แนะนำได้เลย โดยไม่ต้องกังวลว่าผมจะได้รับการบำรุงน้อยเกินไป เพราะผู้ผลิตได้ทดลองสินค้า จนได้ข้อสรุปว่าควรใช้เวลาเท่าไรจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และเหมาะสมสำหรับเส้นผมมาเรียบร้อยแล้วค่ะ


ลูซิโด-แอล อาร์แกน ออยล์ แฮร์ ทรีทเม้นท์ ออยล์

lucidol

ออยล์บำรุงผมเนื้อบางเบา แต่เข้าบำรุงผมได้ล้ำลึก ไม่ทิ้งความมัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีส่วนผสมของ Argan Oil ที่ผ่านการสกัดด้วยแรงดันสูง ทำให้กระจายตัวบนเส้นผมได้ดี ช่วยฟื้นฟูผมแตกปลาย ให้ผมเงาเป็นประกาย ชุ่มชื่นและนุ่มสลวย ปกป้องผมแห้งเสียจากความร้อน และรังสี UV ได้รับรางวัล Cosme Award จากประเทศญี่ปุ่นเชียวนะคะ! วิธีใช้ก็ง่ายๆค่ะ ก่อนไดร์ผม หลังสระผม เช็คผมแห้งหมาด หยดผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมลงบนฝ่ามือ 1-2 หยด กระจายให้ทั่วฝ่ามือ ชโลมให้ทั้งเส้นผม พร้อมใช้นิ้วลูบให้ทั้ว หลังจากนั้นเป่าให้แห้ง หรือหลังจดแต่งผมหยดผลิตภัณฑ์บำรุงผมเล็กน้อย 1-2 หยด ลูบออย์บนผมด้านนอกที่แห้งแล้ว ทำให้ผมเป็นประกายเงางามและอยู่ทรงมากขึ้น

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ LAZADA


OGX Renewing Argan Oil of Morocco Penetrating Oil

OGX

OGX Argan Oil Of Morocco ตัวนี้เป็นน้ำมันบำรุงเส้นผม มีคุณสมบัติปกป้องผมจากการโดนความร้อน จากอุปกรณ์ไฟฟ้า และแสงแดด ที่เป็นอันตรายต่อผม อุดมไปด้วยวิตามินจากอาร์แกนออยล์ ช่วยให้ผมนุ่มลื่น ไม่พันกัน ช่วยให้ผมอยู่ทรงสวย ล้างออกได้ง่าย มาพร้อมแพ็คเกจขนาดเล็ก พกพาง่าย

จุดที่ควรพิจารณา

-ราคาค่อนข้างสูง


Tropicana Cold Pressed Coconut Oil

อุดมไปด้วยสารอาหาร ช่วยฟื้นฟูปัญหาเส้นผม ไม่เหนียวเหนอะหนะ

tropicanaอย่าเพิ่งตกใจนะคะว่าทำไมมีน้ำมันมะพร้าวมาแนะนำด้วย รู้หรือไม่คะว่า น้ำมันมะพร้าวนั้นมีประโยชน์สารพัดเลย เพราะนอกจากจะใช้ทำอาหารหรือใช้นวดตัว ได้แล้ว ยังสามารถนำมาใส่ผมได้อีกด้วย น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นสูตรนี้อุดมไปด้วยสารอาหารของเส้นผมและหนังศีรษะ ที่จะช่วยบำรุงและฟื้นฟูเส้นผมให้นุ่มสลวย, ปกป้องจากการขาดหลุดร่วง, ผมเรียบลื่นเงางาม, ซึบซับรวดเร็ว, ผมหวีง่ายไม่พันกัน

เหมาะกับผู้ที่มีผมแห้งเสียจากการขาดสารอาหาร สามารถใช้หมักผมไว้ประมาณ 1 – 2 ชม. ก่อนสระเพื่อฟื้นฟูผมให้กลับมามีสุขภาพดี เงางาม ตัวน้ำมันมีกลิ่นหอมมะพร้าวอ่อน ๆ จากรีวิวผู้ใช้งานจริงพบว่า ไม่เหนียวเหนอะหนะ เมื่อใช้เป็นประจำเส้นผมมีสุขภาพดีขึ้น คุณภาพแน่นแถมยังสามารถใช้ได้อเนกประสงค์ขนาดนี้ ต้องมีติดบ้านไว้แล้วล่ะค่ะทุกคน


L’Oréal Paris Extraordinary Oil

loreal

L’Oréal Paris Extraordinary Oil สูตรนี้เป็นสูตรที่มีสารสกัดจากดอกกุหลาบฝรั่งเศส มีกลิ่นหอมติดทนนาน เหมาะสำหรับทุกสภาพผม ช่วยปกป้องผมที่ชี้ฟูไม่มีน้ำหนักให้กลับมาเงางามเปล่งประกาย เนื้อเซรั่มบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยปิดเกล็ดผมได้เป็นอย่างดี ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีรีวิวมากมายในทวิตเตอร์และต่างบอกเป็นเสียงเดียวว่าช่วยแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดจริงพร้อมให้กลิ่นหอมยาวนานอีกด้วยค่ะ สำหรับสาว ๆ ที่อยากผมหอมก็ไม่ควรพลาดเลยนะคะสำหรับผลิตภัณฑ์ตัวนี้

จุดที่ควรพิจารณา

-ราคาค่อนข้างสูง


Yves Rocher BHC V2 Reparation Hair Oil

Yvesrocher

Yves Rocher Repair Hair Repair Oil เป็นน้ำมันบำรุงเส้นผมที่ออร์แกนิกมาก ๆ ไม่มีสารอันตรายต่อผมและหนังศีรษะทุกชนิด ใครที่แพ้ง่ายต้องลองค่ะ อีกทั้งมันยังช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงให้กับเส้นผม เหมาะสำหรับคนที่มีผมแห้งชี้ฟู ช่วยคืนความชุ่มชื่นให้กับเส้นผมได้เป็นอย่างดี ช่วยป้องกันไม่ให้ผมพันกัน หวีง่ายขึ้น

จุดที่ควรพิจารณา

-ราคาค่อนข้างสูง


Sunsilk Serum Natural Almond & HoneSunsilk

Sunsilk Serum Natural Almond & Honey เซรั่มบำรุงผมสูตรน้ำผึ้ง เหมาะสำหรับทุก ๆ สภาพผม ตัวเนื้อเซรั่มเนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ว่าจะผมแบบไหนก็สามารถแก้ไขได้ค่ะ ผมพัน ผมแตกปลายได้หมด ใครที่ต้องการหาเซรั่มที่ดี ๆ ต้องลองนะคะ อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมมาก ๆ อีกด้วย

จุดที่ควรพิจารณา

-ไม่เหมาะสำหรับคนผมมัน เพราะจะทำให้เหนียวเหนอะหนะ

-ราคาค่อนข้างสูง


Lolane เนทูร่า เดลี่ แฮร์ เซรั่ม เมจิก อิน วัน

lolane

Lolane Natura Daily ตัวนี้มีสารสกัดจากน้ำมันทานตะวัน ช่วยปกป้องทุกสภาพผม ไม่ว่าจะเป็นผมพันกัน ผมแตกปลาย หรือการปกป้องผมจากมลภาวะตัวนี้ก็สามารถทำได้ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีผมแตกปลาย แห้งและชี้ฟู อีกด้วย ที่สำคัญทางแบรนด์ได้เคลมมาว่าช่วยปกป้องผมได้ถึง 5 เซนติเมตร โดยใช้วิธีง่าย ๆ เพียงลูบเซรั่มเข้าไปที่ปลายผมก็จะช่วยให้ผมคุณแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

จุดที่ควรพิจารณา

-เนื้อค่อนข้างหนัก อาจจะทำให้ผมเหนียว


Go Hair Silky Seaweed Nutrients

Gohair

Go Hair Silky Seaweed Nutrients เซรั่มที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ค่ะ เพราะมันสามารถฟื้นฟูผมแห้งเสียแตกปลายได้ เนื้อเซรั่มเป็นเนื้อบางเบา แต่สามารถบำรุงได้อย่างล้ำลึก เซรั่มตัวนี้จะช่วยให้ผมของคุณแข็งแรงได้ อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อน ช่วยให้ผมของคุณดูสุขภาพดี เปล่งประกายอีกด้วย

จุดที่ควรพิจารณา

-ไม่เหมาะสำหรับคนผมมัน เพราะจะทำให้เหนียวเหนอะหนะ


Dove Hair Serum Nourishing Oil Care Anti Frizz เซรั่มบำรุงผม

Dove Nourishing Oil Care Anti-Frizz Serum เป็นเซรั่มที่ช่วยทำให้ผมDoveขึ้นมาก ๆ  เนื้อเซรั่มเข้มข้น แต่เมื่อใช้แล้วจะไม่รู้สึกเหนอะหนะอย่างแน่นอน ช่วยให้ผมจัดทรงได้ง่าย เงางามเป็นประกาย อีกทั้งยังช่วยให้ดูมีวอลลุ่มไม่ลีบแบน ดูสุขภาพดี  อีกทั้งยังมีกลื่นหอมชวนหลงใหลมาก ๆ เลยทีเดียว

จุดที่ควรพิจารณา

-ไม่เหมาะกับสาว ๆ ผมมัน เพราะจะทำให้มันกว่าเดิม


Hair System by Watsons Ultimate Hair Oil

hairsystem

Hair System by Watsons Ultimate Hair Oil สาว ๆ คนไหนที่มีผมเสียมาก ๆ ตัวนี้เราขอแนะนำค่ะ มันเป็นน้ำมันบำรุงผม ที่คนผมมันก็สามารถใช้ได้เพราะมันเป็นเนื้อบางเบา เต็มไปด้วยน้ำมัน 8 ชนิดฟื้นฟูบำรุงผมได้อย่างดี ไม่มีสารอันตรายใด ๆ ที่จะทำให้ผมเสียกว่าเดิมค่ะ ตัวนี้ก็เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่แพ้ง่ายนะคะ

จุดที่ควรพิจารณา

-เหนียวเหนอะหนะ

-ไม่ควรทาในตอนเช้าเพราะจะมันเยิ้มระหว่างวัน


We will be happy to hear your thoughts

Leave a reply

Top 10 Best
Logo