
10 ยี่ห้ออาหารแมวที่ดีที่สุดในปี 2020
ถ้าพูดถึงสัตว์เลี้ยงยอดนิยมแล้ว แน่นอนว่าหนึ่งในรายชื่อต้องมี ‘แมว’ อยู่ในอันดับต้น ๆ เลย และถึงน้องแมวเหมียวจะมีนิสัยค่อนข้างอินดี้อยู่บ้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พอเราได้เห็นความน่ารักน่าชังของน้องแล้วเป็นต้องสยบยอมแทบเท้าเป็นทาสแมวทุกรายไป แถมยังพร้อมที่จะปรนนิบัติพัดวีด้วยของดี ๆ ให้อย่างไม่รู้จัดเหน็ดเหนื่อยอีกด้วย
เรื่องที่ทาสแมวต้องเตรียมตัวก่อนนำน้องมาเลี้ยง
ต่อให้ชอบแมวมากแค่ไหนก็ตาม แต่ก่อนจะนำน้องมาเลี้ยงนั้นไม่ใช่เอามาเลี้ยงเลยได้ทันที คนที่กำลังจะเป็นทาส(แมว)จะต้องเตรียมตัวและหาข้อมูลเกี่ยวกับแมวที่ควรจะรู้ก่อนด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อทั้งตัวผู้เลี้ยงแล้วก็ตัวน้องด้วย
- เช็กร่างกายตัวเองและคนในบ้านก่อนว่ามีใครแพ้ขนแมวหรือเปล่า
สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงเป็นอันดับแรกก่อนที่จะเลี้ยงน้องก็คือ ‘อาการแพ้ขนแมว’ มีอยู่บ่อยครั้งที่เราไม่รู้ว่าเราแพ้ขนแมว การไปตรวจเช็กเพื่อความแน่ใจจึงเป็นสิ่งที่ต้องทำ รวมไปถึงรูมเมท หรือคนในบ้านด้วยว่ามีใครแพ้ขนแมวรึเปล่า เพื่อให้ทั้งคนและแมวอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข เพราะมีอยู่หลายบ้านเหมือนกันที่รับน้องแมวมาเลี้ยงแล้วเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองแพ้ขนแมว ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจ ไปตรวจเช็กให้รู้แน่ไปเลยจะดีที่สุด
- ทำลิสต์สายพันธุ์แมวที่อยากจะเลี้ยง
น้องแมวมีหลากหลายสายพันธุ์มากทั้งไทยและต่างประเทศ แถมยังแบ่งแยกประเภทน้องออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วย ได้แก่ แมวขนสั้น และแมวขนยาว ซึ่งในแต่ละประเภทก็แยกสายพันธุ์ออกไปได้อีกมายมาก เช่น เปอร์เซีย อเมริกันชอร์ตแฮร์ สก็อตติชโฟลด์ เอ็กโซติกชอร์ตแฮร์ เป็นต้น นอกจากนี้ จะต้องทำความเข้าใจอุปนิสัยของแมวสายพันธุ์ที่เราเล็งเอาไว้ด้วย เพราะแต่ละพันธุ์ก็ย่อมมีอุปนิสัยอันเป็นลักษณะเด่นที่ต่างกันนั่นเอง
- สร้างห้องเซฟให้น้อง
ห้องเซฟที่ว่านี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องกั้นห้องแยกไว้ให้น้องแมวโดยเฉพาะนะ แต่ให้จัดพื้นที่เล็ก ๆ ไว้ให้น้องในทุก ๆ ห้องที่มีในบ้านของเรา ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องน้ำ หรือแม้แต่ห้องครัว ด้วยกล่อง หรือตู้ใบเล็ก ๆ เพื่อให้น้องที่ยังไม่คุ้นกับบ้านใหม่ได้รู้สึกว่ามีพื้นที่สำหรับเขาอยู่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้น้องเกิดความสบายใจด้วย เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่ในที่แคบ และที่แคบก็ทำให้น้องรู้สึกปลอดภัย การอยู่ในที่แคบจึงเป็นเหมือนหลุมหลบภัยสำหรับน้องนั่นเอง
- ต้องพาไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย
โดยเฉพาะลูกแมวที่เพิ่งเกิด เพื่อทำการตรวจเช็กร่างกาย และรับวัคซีนที่จำเป็น เพราะลูกแมวนั้นร่างกายละภูมิต้านทานยังไม่แข็งแรงเท่าแมวโต อย่างไรก็ตาม ต่อให้เป็นแมวที่โตแล้วก่อนจะพากลับบ้านก็ต้องพาไปหาสัตวแพทย์เช่นกัน
- ดูแลเรื่องอาหารและน้ำ
อาหารมีผลต่อสุขภาพของน้องโดยตรง ไม่ต่างอะไรกับเรา ๆ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่เราจะต้องศึกษาและเรียนรู้ส่วนประกอบของอาหารแมว ซึ่งนอกจากจะช่วยให้น้องมีสุขภาพที่ดีแล้ว ยังเป็นการหลีกเลี่ยงการให้อาหารที่มีส่วนประกอบที่อันตรายกับน้องอีกด้วย อีกทั้งแมวในแต่ละช่วงวัย แต่ละสายพันธุ์ก็ต้องการสารอาหารต่างกัน เช่น แมวสายพันธุ์ที่มาพื้นที่เขตร้อนหรือทะเลทราย จะต้องการน้ำมากกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราให้อาหารเม็ดกับน้องด้วย หรือในสายพันธุ์ของแมวขนยาว จำเป็นที่จะต้องได้รับอาหารที่มีสารอาหารสำหรับการบำรุงขนแมวขนยาวโดยเฉพาะ เป็นต้น
- จัดเตรียมกระบะทรายและฟูกนอนน้อง
แม้แต่แมวเองก็ต้องการ ‘ห้องน้ำ’ และแมวส่วนใหญ่ก็ใช้ห้องน้ำแบบเรา ๆ ไม่ได้ด้วย ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่เราต้องเตรียมเอาไว้ให้พร้อมก็คือ กระบะทรายห้องน้ำ นอกจากนี้แล้วก็ยังต้องเตรียมฟูกนอนนุ่ม ๆ ไว้ให้สำหรับเป็นที่นอนให้ไว้น้องแมวของเราด้วย
- ‘เสาลับเล็บ’ สำคัญกับน้องแมวพอ ๆ กับอาหารการกิน
หลายคนอาจมองว่ามันเป็น ‘ของเล่น’ น้อง จึงไม่คิดจะเตรียมเอาไว้เพราะเป็นของสิ้นเปลือง แต่สำหรับแมวแล้ว มันสำคัญพอ ๆ กับเรื่องอาหารการกิน เนื่องจากพฤติกรรมการฝนเล็บหรือลับเล็บเป็นพฤติกรรมทางธรรมชาติของแมวทุกตัวอยู่แล้ว ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีเสาลับเล็บไว้ให้น้อง เพราะหากไม่มีเสาลับเล็บไว้ให้น้อง น้องก็จะเริ่มหาของทดแทนสำหรับฝนเล็บ อย่างเฟอร์นิเจอร์ของเรา เป็นต้น เชื่อว่าทาสแมวหลายคนก็คงไม่ปลื้มเท่าไหร่ที่เฟอร์นิเจอร์สวย ๆ ต้องมีรอยเล็บแมวข่วนเต็มไปหมด
- ต้องมีเวลาที่จะเล่นกับน้อง
แมวเป็นสัตว์ที่ชอบเล่นและเล่นเก่ง ไม่จำเป็นว่าจะต้องหาซื้อของเล่นแมวแพง ๆ ลองมองหาของที่มีอยู่แล้วในบ้าน อย่างถุงกระดาษ หรือกล่องกระดาษ กล่องลัง หรือแม้แต่การนำเอาวัสดุที่หาได้ง่าย ๆ ในบ้านมาประยุกต์ใช้เป็นของเล่นน้องก็ไม่เลวเลย การเล่นกับน้องนอกจากจะดีกับน้องแมวแล้ว ยังดีกับทาสอย่างเราด้วย หลาย ๆ งานวิจัยพบว่า การเลี้ยวแมวช่วยดูแลเรื่องของสภาวะจิตใจของเจ้าของได้ เป็นการบำบัดด้วยธรรมชาติอย่างหนึ่ง
ชนิดของอาหารแมว
อาหารแมวมีหลายชนิด ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ชนิดหลัก ๆ ดังนี้
- อาหารแมวแบบเปียก (Wet cat foods)
ชื่อก็บอกลักษณะอยู่แล้ว ว่าเป็นอาหารแมวแบบที่มีความชุ่มชื่นสูง และผ่านการปรุงสุกด้วยอุณหภูมิสูง พร้อมฆ่าเชื้อแล้วอย่างดีก่อนที่จะปิดผนึกใส่บรรจุภัณฑ์ ซึ่งเรามักจะเห็นในรูปแบบของกระป๋องและแบบถุง
- ยอาหารแมวแบบแห้ง (Dry cat foods)
อาหารแมวแบบแห้งจะมีความชื้นต่ำ ซึ่งมักอยู่ในรูปของอาหารเม็ด และประกอบด้วยเนื้อสัตว์ ธาตุอาหาร และวิตามินแร่ธาตุต่าง ๆ ที่น้องแมวต้องการ เช่น โปรตีน ไขมัน ไฟเบอร์ เป็นต้น สามารถเก็บไว้ได้นาน ทั้งยังช่วยขัดฟันน้อง ทำให้ฟันสะอาด และยังช่วยให้เหงือกน้องแข็งแรงอีกด้วย
- อาหารแมวสด (Raw cat foods)
ส่วนใหญ่เรามักจะเห็นในลักษณะเป็นอาหารสดแช่แข็งสำเร็จรูป ซึ่งเวลาให้อาหารน้องจะต้องเอามาปรุงให้สุกก่อน จึงมักทำให้เสียเวลาอยู่บ้าง ไม่เหมือนอาหารแมวสำเร็จรูปที่เป็นแบบเปียกและแบบแห้ง แต่ก็มีราคาถูกกว่า นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดเยอะกว่าด้วย เพราะต้องเก็บไว้ในตู้เย็นตลอดเวลา และมีสารอาหารที่ไม่ครบถ้วน
เลือกอาหารแมวอย่างไร ?
แม้จะมีอาหารแมวหลายชนิด และก็ให้สารอาหารที่น้องแมวต้องการเหมือน ๆ กัน ต่างก็ตรงที่ความสะดวกของเจ้าของแมว อย่างไรก็ตาม การเลือกอาหารแมวนั้นมีหลักเกณฑ์ในการเลือกอาหารสำหรับแมวอยู่ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องรู้ไว้เพื่อสุขภาพที่ดีของน้องแมว
- ดูน้องแมวของเราเป็นหลัก
ก่อนจะเลือกอาหารให้น้องแมวของเรา จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องรู้ว่าแมวของเราเป็นลักษณะไหนและต้องการอะไร ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ อายุ และความต้องการพิเศษอื่น ๆ เช่น บำรุงขนสำหรับแมวขนยาว ฯลฯ เพื่อที่จะให้เราสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและเลือกอาหารที่เหมาะสมกับน้องแมวของเรา เพราะอาหารแมวแต่ละยี่ห้อในห้องตลาดจะมีหลายสูตรด้วยกัน ซึ่งผลิตขึ้นตามความต้องการของแมวนั่นเอง
- อ่านฉลากดูส่วนประกอบให้ละเอียด
มันก็เหมือนกับการเลือกอาหารทั่วไปของเรา ที่จะต้องดูโภชนาการบนฉลากอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาหารสำเร็จรูป สำหรับในอาหารแมว จะต้องมีส่วนประกอบจากเนื้อสัตว์และส่วนประกอบอื่น ๆ ในปริมาณไม่ต่ำกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ และต้องไม่มีส่วนประกอบของน้ำผสม โดยเฉพาะในอาหารแมวแบบเปียก รวมทั้งดูปริมาณโปรตีนและไขมัน ซึ่งจำเป็นสำหรับแมวมากที่สุด โดยจะต้องมีปริมาณของโปรตีนและไขมันในปริมาณที่เหมาะสม
- ดูความสะดวกของเจ้าของด้วย
ที่ต้องดูความสะดวกของเจ้าของน้องแมวด้วยนั้น ก็เพราะอาหารแมวบางชนิดนั้นต้องใช้เวลาในการเตรียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารแมวสด ที่ต้องทำการปรุงสุกก่อน ซึ่งในบางครั้งก็ไม่สะดวกสำหรับเจ้าของแมวที่ไม่ค่อยมีเวลา และอาจพิจารณาเลือกเป็นอาหารสำเร็จรูปอย่างอาหารแมวแบบเปียกหรืออาหารแมวแบบแห้งแทน
- อาหารแมวก็มีเกรดบ่งบอกคุณภาพ
อาหารแมวเองก็มีการแบ่งเกรดคุณภาพเช่นเดียวกัน ในบางยี่ห้อนั้นแม้จะมีราคาที่ถูกสบายกระเป๋าเจ้าของแมว แต่กลับมีส่วนผสมที่ไม่ค่อยดีกับสุขภาพของน้องในระยะยาวผสมอยู่ด้วยเพื่อลดต้นทุนการผลิต ดังนั้น ในบางครั้งเราอาจจะต้องกัดฟันซื้ออาหารแมวที่แพงหน่อย แต่ได้คุณภาพ และไม่มีสารอาหารที่จะเป็นอันตรายต่อร่างกายของน้องในระยะยาวได้ เช่น โซเดียม เป็นต้น
10 ยี่ห้ออาหารแมวที่ดีที่สุดในปี 2020
ในท้องตลาดมีอาหารแมวอยู่มากมาย แต่ในปี 2020 มีอยู่ 10 ยี่ห้อที่ได้รับความไว้วางใจจากทาสแมวทั้งหลายให้ดูแลสุขภาพของน้อง และได้รับการบอกต่อด้วยความไว้วางใจจากปากต่อปาก
อาหารแมว Purina One
เพียวริน่าวัน อาหารแมวเกรดซูเปอร์พรีเมียม ซึ่งได้รับการคิดค้นสูตรอาหารจากทีมสัตวแพทย์ และนักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญ พร้อมด้วยนวัตกรรมด้านโภชนาการในระดับโลก เพื่อผลิตอาหารแมวจากวัตถุดิบคุณภาพสูงที่คัดสรรแล้ว และอัดแน่นด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อแมวอย่างครบถ้วน
ชนิดของอาหารแมว : อาหารแมวแบบแห้ง
เว็บไซต์: www.purinaone.co.th
อาหารแมว Royal Canin
รอยัลคานิน เป็นยี่ห้อที่ไม่ว่าทาสแมวคนไหนก็ต้องเคยได้ยิน แต่นอกจากจะเป็นยี่ห้ออาหารแมวอันโด่งดังแล้ว รอยัลคานินยังมีผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับสุนัขด้วย พร้อมมอบโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพของสุนัขและแมว ด้วยการคิดค้นจากนักวิทยาศาสตร์ที่รู้ความต้องการของแมวและสุนัข โดยแบ่งชนิดของอาหารแมวตามอายุและสายพันธุ์ของแมว
ชนิดของอาหารแมว : อาหารแมวแบบแห้ง และอาหารแมวแบบเปียก
เว็บไซต์: www.royalcanin.com
อาหารแมว Hill’s
ผลิตอาหารแมวด้วยการคิดค้นและวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์ และการวิจัยจากการดูแลเอาใจใส่พฤติกรรมของแมว รวมทั้งรู้ความต้องการของแมวอีกด้วย ซึ่งไม่เพียงแค่แมวเท่านั้น ฮิลส์ยังผลิตอาหารสำหรับสุนัขด้วยวิธีการเดียวกัน เพื่อให้ได้อาหารที่มีคุณภาพต่อแมวและสุนัขที่เรารัก
ชนิดของอาหารแมว : อาหารแมวแบบแห้ง และอาหารแมวแบบเปียก
เว็บไซต์: www.hillspet.com
อาหารแมว Whiskas
ด้วยจุดมุ่งหมายที่ให้แมวมีสุขภาพที่ดี ดังนั้นทำการคิดค้นสูตรอาหารที่จะเหมาะกับสุขภาพของแมวในแต่ละช่วงวัยด้วยอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการ
ชนิดของอาหารแมว : อาหารแมวแบบแห้ง และอาหารแมวแบบเปียก
เว็บไซต์: www.whiskas.co.th
อาหารแมว Maxima
แม็กซิม่า ผลิตจากเนื้อแกะเป็นส่วนประกอบหลัก พร้อมด้วยข้าว กลูเตนข้าวโพด รำข้าว ไขมัน น้ำมันทูน่า วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ฯลฯ เพื่อให้แมวได้สารอาหารที่ครบถ้วนต่อความต้องการ บำรุงขนและผิวหนัง รวมถึงป้องกันการเกิดโรคนิ่วอีกด้วย
ชนิดของอาหารแมว : อาหารแมวแบบแห้ง
เว็บไซต์: www.maximapetfeeds.com
อาหารแมว Canagan
อาหารแมวที่เป็นการรวมส่วนผสมของเนื้อหรือปลา กับมันหวาน สมุนไพร และส่วนประกอบธรรมชาติอื่น ๆ ที่มีสารอาหารที่จำเป็นและครบถ้วนตามความต้องการของแมว อีกทั้งยังปราศจากส่วนผสมตระกูลข้าว เพราะจะส่งผลต่อระบบการย่อยแป้งของแมว พร้อมการันตีด้วยรางวัลอาหารแมวและสุนัขยอดเยี่ยม
ชนิดของอาหารแมว : อาหารแมวแบบแห้ง และอาหารแมวแบบเปียก
เว็บไซต์: www.canagan.co.uk
อาหารแมว Me-O
อาหารแมวที่ผลิตขึ้นตามมาตรฐานอุตสาหกรรมสากล (ISO 9002) และมาตรฐานกองควบคุมอาหารสัตว์เลี้ยงแห่งสหรัฐอเมริกา ( AFFCO) จึงทำให้ได้อาหารแมวมีคุณภาพที่ดี พร้อมทั้งมุ่งให้แมวมีสุขภาพที่ดีได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามความต้องการของแมว
ชนิดของอาหารแมว : อาหารแมวแบบแห้ง และอาหารแมวแบบเปียก
เว็บไซต์: www.perfectcompanion.com
อาหารแมว Gourmet Golden
อาหารแมวเกรดพรีเมียมที่รวบรวมคุณค่า สารอาหารตามมาตรฐานกองควบคุมอาหารสัตว์เลี้ยงแห่งสหรัฐอเมริกา (AFFCO) และมาตรฐานโภชนาการของสถาบันวิจัยแห่งชาติสหรัฐอเมริกา NRC พร้อมให้รสธรรมชาติ ทานง่าย เม็ดเล็กรูปปลา ช่วยในการทำความสะอาดฟันและเหงือก และมีกากใยสูง ช่วยขับก้อนขนในกระเพาะและลำไส้
ชนิดของอาหารแมว : อาหารแมวแบบแห้ง
เว็บไซต์: www.littlebonito.com
อาหารแมว Friskies
อาหารแมวฟริสกี้ส์ ผลิตจากปลาแท้ ๆ มีโปรตีน โอเมก้า 3 และ 6 และแคลเซียม ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดนิ่ว ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อเสริมสร้างกระดูกและฟัน พร้อมช่วยให้ขนสวย สุขภาพดี นอกจากนี้ยังแบ่งออกเป็นสูตรสำหรับแมวเล็กและแมวโต และความต้องการตามปัญหาสุขภาพของแมว
ชนิดของอาหารแมว : อาหารแมวแบบแห้ง และอาหารแมวแบบเปียก
เว็บไซต์: www.nestle.co.th
อาหารแมว Cataholic
อาหารแมวที่คัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมียม ผ่านกระบวนการที่สะอาด เพื่อสุขภาพที่ดีของแมวแต่ละประเภท โซเดียมต่ำ ไม่หนักเค็ม และเสริมด้วยโอเมก้า 3 และ 6 เพื่อให้แมวมีสุขภาพผิวที่ดีและขนนุ่มเงางาม
ชนิดของอาหารแมว : อาหารแมวแบบแห้ง
อาหารต้องห้ามของน้องแมว
นอกจากการเลือกอาหารแมวที่เหมาะสมกับแมวของเราแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่เลยที่เราต้องรู้เกี่ยวกับอาหารแมวก็คือ อาหารต้องห้ามที่ไม่ควรให้แมวกินไม่ว่าจะด้วยเหตุอะไรก็ตาม เพราะบางอย่างอาจทำให้น้องป่วยและทำให้ตายได้
- ยาพาราเซตามอล
ยาพาราเซตามอลจะมีผลเป็นพิษกับน้องแมว ทำให้เกิดความผิดปกติในระบบเลือด ทำให้เลือดลำเลียงออกซิเจนไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้น้องตายได้
- นมวัว
ไม่เพียงแต่นมวัว แต่รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัวทุกชนิดด้วย เพราะน้องแมวไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมวัวได้ ซึ่งอาจทำให้น้องท้องเสีย
- ช็อกโกแลต
เนื่องจากว่าในช็อกโกแล็ตมีสารธีโอโบรมีน ซึ่งจะทำให้การเต้นหัวในของน้องแมวผิดปกติ ชัก และอาจตายได้
- กระดูกและเนื้อติดมัน
กระดูกก็จะสร้างปัญหาให้กับระบบขับถ่าย รวมทั้งอาจทำให้แมวสำลัก ส่วนเนื้อติดมันนั้นจะทำให้น้องแมวท้องเสีย หรืออาเจียนได้
- ปลาดิบ
ในปลาอาจมีเชื้อโรค หรือแบคทีเรียบางชนิดที่เป็นอันตราย แนะนำให้นำปลาไปปรุงให้สุกก่อนให้น้องทานจะดีที่สุด