10 ร้านอาหารญี่ปุ่นซูชิ อร่อย 2020

ถ้าพูดถึงอาหารญี่ปุ่นคงไม่มีใครไม่รู้จักซูชิที่เป็นอาหารชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นมีส่วนประกอบหลักเป็นข้าวที่ผสมกับน้ำส้มสายชู(ซุชิเมะชิ)ปั้นแต่งหน้าด้วยชิ้นปลา ไข่ หรืออื่น ๆ ซูชิเป็นอาหารญี่ปุ่นที่มีวิวัฒนาการมาเป็นร้อย ๆ ปี ซูชิเป็นวิธีการถนอมอาหารอย่างหนึ่งของญี่ปุ่นปัจจุบันซูชิถูกแบ่งออกได้เป็นหลาย ๆ ประเภท ได้แก่

  1. Nigiri Sushi (นิกิริซูชิ)

เป็นการนำเอาข้าวหมักกับน้ำส้มสายชูปั้นด้วยมือให้ได้เป็นรูปทรงคล้ายวงรีขนาดพอดีคำแล้วแต่งหน้าด้วยเนื้อปลาดิบ

  1. Maki Sushi (มากิซูชิ)

เป็นการนำข้าวหมักน้ำส้มสายชูวางบนสาหร่ายแผ่นใหญ่แล้วใส่ไส้ซูชิลงไปเช่นแตงกวา ไข่หวาน และอื่นๆ แล้วม้วนให้เป็นโรลเวลารับประทานตัดเป็นคำ ๆ ว่ากันว่ามีที่มาจากการอเมริกาเป็นการทำซูชิให้เหมาะกับวัฒนธรรมการกินที่นั่น

  1. Temaki Sushi (เทมากิซูชิ)

ในภาษาอังกฤษจะเรียกซูชิประเภทนี้ว่า Hand Roll เพราะลักษณะของซูชิประเภทนี้จะเป็ฯกรวยโดนด้านนอกสุดจะเป็นสาหร่ายที่ห่อเป็นรูปทรงกรวยหุ้ข้าวและไส้ของซูชิไว้

  1. Gunkan Sushi (กุงกังซูชิ)

กุงกังซูชิเป็นซูชิที่มีลักษณะคือ มีสาหร่ายห่อข้าวและของแต่งหน้าซูชิไว้เป็นคำ ๆ พอดีคำ มีลักษณะคล้ายนิกิริซูชิแต่กุงกังซูชิจะปั้นข้าวเป็นทรงกลมวางของแต่งหน้าเช่น ไข่ปลา แล้วเอาสาหร่ายห่อไว้เป็นคำ ๆ

  1. Chirashi Sushi (ชิราชิซูชิ)

เป็นซูชิขนาดใหญ่ที่จะเสริฟในถ้วยกันเลยทีเดียว ลักษณะจะคล้ายข้าวหน้าปลาดิบที่เสริฟในถ้วย ชาม หรือกล่องเบนโตะ แต่ที่เรียกกันว่าซูชิเพราะข้าวนั้นผสมหมักกับน้ำส้มสายชูจึงเรียกว่าเป็นซูชิชิราชิซูชิ

  1. Oshi Sushi (โอชิซูชิ)

เป็นซูชิที่โด่งดังมาจากฝั่งคันไซ เป็นการนำเอาข้าวซูชิและปลาดิบเรียงลงไปในกล่องตามลำดับแล้วทำการกดทับให้แน่นได้ออกมาเป็นโอชิซูชิที่มีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยมแล้วตัดให้พอดีคำ

  1. Inari Sushi (อินาริซูชิ)

มีลักษณะเด่นคือสิ่งที่ห่อข้าวผสมน้ำสมสายชูไว้จะไม่ใช่สาหร่ายแต่จะเป็นตู้ทอดที่มีรสชาติหวานหน่อย ๆ ซูชิประเภทนี้จะไม่มีไส้ ภายในเต้าหู้ทอดที่กลวง ๆ จะมีแต่ข้าวหมักผสมนำส้มสายชู

วิธีการกินซูชิ

เทโชยุลงจาน เวลาทานให้นำซูชิไปจุ่มในโชยุ ราดโชยุลงไปที่ข้าว จุดที่น่าสนใจคือให้จุ่มตรงส่วนหน้าซูชิให้โดนโชยุด้วยและเพื่อให้ข้าวดูดซึมโชยุอาจจะราดโชยุลงไปเลยก็ได้ โดยปกติทางร้านจะจัดเตรียมน้ำชาและขิงหั่นบางที่ดองในน้ำส้มสายชู ที่เรียกว่า กะริ ไว้คอยบริการ แนะนำให้ทานซูชิหน้าเนื้อปลาที่มีรสชาติอ่อน(เนื้อปลาสีขาว)แล้วค่อยทางซูชิหน้าเนื้อปลาที่มีรสเข้ม(เนื้อปลาสีแดง) ทานสลับไปมากับขิงดองเพื่อแก้เลี่ยน นอกจากนี้ยังสามารถทานกับวาซาบิได้ด้วย โดยการนำวาซาบิวางระหว่างข้าวกับตัวหน้าถ้าเป็นซูชิแบบนิกิริซูชิ เป็นต้น

                รู้ประวัติซูชิ ประเภทซูชิ วิธีการกินซูชิกันแล้วมารู้จัก 10 ร้านซูชิที่ดีที่สุดในปี 2018 กัน โดยเกณฑ์การเลือกจะเลือกจากร้านที่มีรีวิวจากลูกค้ามากที่สุดและจากเกณฑ์ดังต่อไปนี้

  1. บรรยากาศการตกแต่งของร้าน

มากินซูชิทั้งที่ก็ต้องอยากได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่น ๆ กนหน่อยใช่ไหมล่ะ ร้านที่ตกแต่งด้วยไม้ หรือมีโทนสีเหมือนเปลือกไม้เรียบ ๆ จะให้อารมณ์แบบญี่ปุ่นมากขึ้น การตกแต่งแบบญี่ปุ่นมักให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติทำให้รู้สึกเรียบง่าย แต่มีความหรูหราและความคลาสสิคอยู่ในตัว ช่วยให้จิตใจสงบได้มากขึ้น

  1. ราคา

แน่นอนประเด็นสำคัญสุดก็คือเรื่องเงิน ฮา ร้านซูชิที่ดีนอกจากบรรยากาศ การตกแต่งจะดีแล้วราคาต้องไม่สูงเวอร์จนเหมือนเสียค่าตั๊วเครื่องบินไปกินถึงญี่ปุ่น ร้านที่เราคัดสรรเลือกมารับรองได้ว่าราคาสมเหตุสมผลกับคุณภาพอาหารแน่นอน

  1. ความสดความสะอาดของวัตถุดิบ

ถึงซูชิจะเป็นการถนอมอาหารแบบญี่ปุ่นแต่ในปัจจุบันโลกที่มีเทคโนโลยีถนอมอาหารมากมาย ความสด ความสะอาดของวัตถุดิบทำซูชิจึงเป็นหัวใจหลักสำคัญของซูชิ ซูชิที่อร่อยจะต้องมีความสะอาดและความสดของวัตถุดิบอย่างเช่น เนื้อปลาที่แต่งหน้า หรือไข่หว่านที่ทำเสร็จสด ๆ  แค่พูดและคิดน้ำลายก็ไหลแล้ว

  1. รสชาติ

รสชาติเป็นเรื่องสำคัญของอาหารทุกชนิดรสชาติอร่อยก็มักตรึงใจให้เรากลับไปกินเรื่อย ๆ รสชาติของซูชิมักอยู่ที่ความสด ความสะอาดของวัตถุดิบ 10 ร้านที่เราเลือกมานี้รับรองได้ว่ารสชาติดี ทานแล้วอยากกลับไปทานซ้ำแน่นอน รสชาติดีสมราคา ความสะอาดความสดของวัตถุดิบดีแน่ รับรอง

  1. ทำเลที่ตั้ง

พูดถึงบรรยากาศร้าน ราคา ความสดความสะอาดของวัตถุดิบ และรสชาติแล้ว ทำเลที่ตั้งก็สำคัญไม่แพ้กัน ทำเลดีมักมีชัยไปกว่าครึ่งทำเลที่ดี ๆ มักหมายถึง ร้านที่หาทางไปสะดวก อยู่ใกล้ตัวเมืองมีที่จอดรถที่หาง่ายจอดสะดวกไม่ใช่จอดปุ๊บโดนล็อคล้อปั๊บ หรือต้องวนหาร้านเหมือนงมเข็มในเขาวงกต ร้านที่เราเลือกมารับรองว่าอยู่ในตัวเมืองมีทำเลดีหาที่จอดสะดวกแน่นอน

                เกริ่นมาเยอะมากแล้ว อยากเริ่มรู้จัก 10 ร้านอาหารญี่ปุ่น ซูชิ ที่ดีที่สุดในปี 2018 กันแล้วใช่ไหมละมาเริ่มกันที่ร้านแรกเลย

10 ร้านอาหารญี่ปุ่น ซูชิ ที่ดีที่สุดในปี 2020

Sushi Masa (ซูชิ มาสะ) ราชเทวี

ร้านอาหารญี่ปุ่น

ร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้ BTS ราชเทวีและมีที่จอดรถในร้าน เป็นร้านที่มีชื่อเสียงมายาวนาน เป็นร้านที่มีขนาดเล็ก แต่อร่อยคำโต บรรยากาศของร้านให้ความเป็นญี่ปุ่นนิดๆ ตกแต่งด้วยสีเข้ม ๆ มีโต๊ะหน้าเคาธ์เตอร์ ถ้านั่งตรงจุดนี้จะทำให้เห็นวิธีที่เชฟปรุงซูชิได้ด้วยนะ ความสะอาดของร้านมีสิบให้เต็มสิบ เชฟใส่ทั้งถุงมือ ผ้าปิดปาก และหมวก ราคาอาหารอยู่ในแต่ละเมนูอยู่ในหลักร้อย เมนูแนะนำของร้านนี้คือแซลมอน เพราะทั้งสดทั้งชิ้นใหญ่ รสชาติถูกปากใครหลาย ๆ คน

ที่ตั้ง: Siam Swana Hotel ซอยพญานาค ถนนเพชรบุรี แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ กรุงเทพมหานคร (โรงแรมสยามสวานา ลง BTS ราชเทวี เลี้ยวซ้ายเข้าซอยตรงไปประมาณ 200 เมตร ร้านอยู่ขวามือ)

เบอร์โทร: 02-215-9289

เว็บไซต์: www.sushimasabkk.com

facebook: www.facebook.com/Sushi-Masa


Isao (อิซาโอะ)

ร้านอาหารซูชิ

ร้านนี่มีเมนูเด็ดดวงคือ เมนูแจ๊คกี้ เป็นเมนูซูชิโรลกุ้งหน้าตาหนอนน่ารัก รสชาติติดปาก ใครมาแล้วสั่งเมนูนี้ครั้งหน้ามาก็ต้องสั่งเพิ่มแน่นอนเพราะหลายเสียงรีวิวบอกว่ารสชาติอร่อย กินแล้วติดปาก นอกจากเมนูแจ็คกี้แล้ว ซูชิโรลต่าง ๆ ของที่นี้ก็ขึ้นชื่อ ด้วยอาหารขึ้นชื่อหลายเมนู ทำให้คนมักจะแน่นเต็มร้าน ดังนั้นใครจะมาแนะนำโทรมาจองกันก่อนนะจ๊ะ อ้อ ร้านนี้ไม่มีที่จอดรถนะ ถ้านำรถมาสามารถนำรถไปจอดได้ที่โรงแรม S31 ปากซอย แล้วเดินมาร้าน โดยสามารถเอาบัตรจอดรถมาประทับที่ร้านได้ฟรี1ชั่วโมง แต่หลังจากนั้นจ่ายชั่วโมงละ 50  บาท พอเข้าร้านมาได้ก็สบายเพราะพนักงานดูละดีและเร็ว อาหารมาไม่ช้าถูกใจใครหลาย ๆ คนแน่นอน บรรยากาศร้านก็มีความญี่ปุ่นสูงภายในภายนอกตกแต่งด้วยไม่ไผ่ ภายในตกแต่งด้วยไม่สีเข้ม มีโต๊ะนั่งหน้าเค้าเตอร์ที่สามารถดูเชฟปรุงอาหารได้ด้วย

ที่ตั้ง:ถนน สุขุมวิท กรุงเทพมหานคร (150 เมตรจากปากซอยสุขุมวิท 31 ร้านอยู่ซ้ายมือ)

เบอร์โทร: 02-258-0645,  095-615-4264

เว็บไซต์: www.isaotaste.com

facebook: facebook.com/isaobkk


Sushi Mori (ซูชิ โมริ)

ร้าน-ซูชิ-บุฟเฟ่ต์

ร้านซูชิ โมริ นี้เป็นร้านสไตล์ซูชิบาร์บนตึก Sathorn Square ชั้น M1 มีเมนูอร่อยอยู่หลายเมนู ตึก Sathorn Square จะอยู่ติดกับ BTS สถานีช่องนนทรี โดยมีทางเชื่อมจากสถานีเข้ามาในตัวตึกได้เลย จากนั้นเดินลงบันไดเลื่อนไป 1 ชั้นก็จะเห็นหน้าร้านเด่นชัดอยู่หน้าบันไดเลย ส่วนถ้าใครเอารถไป สามารถนำบัตรจอดรถมาสแตมป์จอดฟรีได้ 2 ชั่วโมง เกินจากนั้นคิดชั่วโมงละ 30 บาท พอเดินเข้ามาในร้านก็จะสัมผัสได้ถึงความเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกนั่งสบายและเป็นกันเองสุดๆ โดยทางร้านจะเน้นใช้เนื้อไม้เป็นองค์ประกอบหลักในการตกแต่ง จึงเป็นที่มาของชื่อร้าน “Sushi Mori” (Mori แปลว่า “ไม้” ในภาษาญี่ปุ่น)

ที่ตั้ง:ถนน สาทรเหนือ กรุงเทพมหานคร (ชั้น M1 ตึกสาทร สแควร์ ตึกนี้ ติดรถไฟฟ้าช่องนนทรี)

เบอร์โทร: 092-424-4040

เว็บไซต์: facebook.com/sushimori.bangkok


Fillets (ฟิลเล)

ร้านซูชิสายพาน

เป็นร้านที่ขึ้นชื่อทั้งของคาวและของหวานบรรยากาศร้านออกแนวโมเดิร์นที่ให้กลิ่นอายญี่ปุ่นเล็กน้อย ขนาดร้านค่อนข้างกว้าง มูมีมากมายหลายอย่าง หลายเสียงรีวิววว่าเนื้อปลาที่นี้มีความสดใหม่มาก กินแล้วละลายบนลิ้นกันเลยทีเดียว ร้านตั้งอยู่บนชั้น 3 ของตึก The Portico ซอยหลังสวน ถ้ามาทาง BTS ก็ออกที่สถานีชิดลมด้าน Mercury Ville แล้วเดินเข้ามาประมาณ 5-10 นาทีก็ถึง ถ้าขับรถส่วนตัวมาเองก็ไม่ต้องกังวลเพราะทางร้านมีที่จอดรถ โดยจอดที่ชั้นใต้ดินของตึก

ที่ตั้ง: The Portico Langsuan 31 Soi Langsuan, กรุงเทพมหานคร (ชั้น 3 ตึก Portico)

เบอร์โทร: 02-041-6056092-879-6882

เว็บไซต์: filletsbangkok.com

facebook: facebook.com/filletsbangkok

instagram: instagram.com/filletsbangkok


Shibuya Shabu (ชิบูย่า ชาบู)

ซูชิ-ญี่ปุ่น

ร้านนี้เน้นความหลากหลาย ทั้งชาบู ซูชิ และของหวาน ทีเด็ดเขาว่าอยู่ที่ซูชิหน้าปลาไหลที่อร่อยละลาย เนื้อปลาไหลนุ่มไม่คาว ไม่มีก้างให้ระคายคอ ถึงจะเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ชาบู แต่มีกลิ่นอายความเป็ฯญี่ปุ่นไม่น้อยหน้าร้านอื่นเลย ด้วยการตกแต่งด้วยไม่ไผ่และไม้สอ่อนทำให้สบายตานั่งกินชาบู ซูชิ ของหวานไป เพลินทั้งปากเพลินทั้งตา ที่สำคัญมีที่จอดรถภายในตึกด้วย

ที่ตั้ง: ถนน พระราม 9 กรุงเทพมหานคร (ชั้น L อาคารวรสมบัติ)

เบอร์โทร: 02-246-053502-437-0997

facebook: facebook.com/ShibuyaShabu


The Grill Tokyo (เดอะกริลโตเกียว)

ซูชิ-สายพาน

ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยมร้านนี้อยู่คู่ห้างสยามพารากอนมาเนิ่นนาน แม้จะอยู่ในห้างแต่การตกแต่งมีความเป็นญี่ปุ่นด้วยการใช้ไม้สีอ่อนประดับและตกแต่งทั่วร้าน ร้านนี้มีหลายโซนที่นั่งมาก แต่จากเสียงรีวิว ว่ากันว่าไม่ว่าโซนไหนก็มีความเป็นส่วนตัวสูง เป็นร้านที่สงบเหมาะแก่การไปสั่งอาหารญี่ปุ่น ซูชิต่าง ๆ นั่งกินกับคู่รัก หรือเพื่อนฝูงอย่างยิ่ง ที่จอดรถก็ไม่ต้องพูดถึงเพราะร้านนี้อยู่ในห้างสยามพารากอนที่ใคร ๆ ก็รู้จัก เดินทางสะดวก ที่จอดรถก็มีพ้อม อย่าลืมไปลองกันนะ

ที่ตั้ง: ถนน พระรามที่ 1 กรุงเทพมหานคร (Siam Paragon ชั้น G North Zone)

เบอร์โทร: 02-129-442702-610-9487

เว็บไซต์: www.nippontei.com

facebook: facebook.com/The-Grill-Tokyo


Okinawa Kinjo Japanese Restaurant (โอกินาวา คินโจ)

อาหารญี่ปุ่น

“ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอกินาว่า ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 69 สามารถเดินจากบีทีเอสพระโขนงเข้าซอยมาได้เลย ร้านมีขนาดเล็ก แต่มีถึง 3 ชั้นไว้รองรับลูกค้า บรรยากาศร้านตกแต่งแบบญี่ปุ่น มีรูปภาพและโปสเตอร์มากมาย มีเพลงญี่ปุ่นท้องถิ่นให้ฟังเบาๆคลอไปเรื่อยๆระหว่างทานอาหารด้วย ร้านมีเมนูให้เลือกหลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นเมนูประจำท้องถิ่น ซึ่งจะค่อนข้างแปลกตาและหาทานได้ยาก ไม่ค่อยพบในร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วๆไป ราคาก็ไม่แพง และปริมาณต่อจานค่อนข้างเยอะ” ตัวอย่างคำรีวิวจากเว็บ wongnai แสดงให้เห็นว่าร้านนี้เป็นร้านที่มีเอกลักษณ์มาก ๆ เพราะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอกินาว่าที่มีเมนูอาหารญี่ปุ่นต่างจากร้านอื่นใครอยากลองซูชิสไตลืโอกินาว่าก็แนะนำให้มาร้านนี้เลย ถ้าขับรถมาเองสามารถจอดรถได้ตามที่จอดรถของทางร้าน คิดชั่วโมงละ 40 บาท หรือใครไม่มีรถก็เดินทางมาด้วยบีทีเอสได้โดยลงสถานีพระโขนงแล้วเดินมายังร้านได้สบาย ๆ

ที่ตั้ง: ซอย ปรีดี พนมยงค์ 3 กรุงเทพมหานคร (ลง BTS พระโขนงทางออกที่ 3 เข้าซอยสุขุมวิท 69 ร้านอยู่ห่างจากปากซอยประมาณ 100 เมตร ทางขวามือก่อนถึงสามแยก)

เบอร์โทร: 02-711-0536

เว็บไซต์: www.kinjo.co.th

facebook: facebook.com/kinjo.okinawa


Real Ichi Yakiniku & Sushi (เรียลอิจิ ยากินิคุแอนด์บาร์)

ซูชิเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างและซูชิแบบญี่ปุ่นที่หลายเสียงการันตีว่าอาหารสดมาก บรรยากาศร้านตกแต่งด้วยไม้สีอ่อนให้บรรยากาศสบาย ๆ ชิว ๆ กินปิ้งย่างไปพูดคุยกันไปเพลิน ๆ สามารถขับรถมาเองได้บริเวณร้านมีที่จอดรถ เนื่องจากเป็นร้านปิ้งยางจึงเหมาะกับการมาเป็นกลุ่มไม่ว่าจะแบบครอบครัวหรือแบบเพื่อนฝูง บุฟเฟ่ต์มีสองราคา คือ 699 บาทกับ 899 บาทเป็นราคาที่ยังไม่รวมน้ำ ถึงราคาจะดูสูงแต่หลายรีวิวยืนยันว่าความสด ความอร่อยคุ้มเกินราคาแน่นอน

ที่ตั้ง: ถนน เพชรบุรี กรุงเทพมหานคร (อยู่หน้าร้าน แฟมิลลี่หมูกระทะ หัวมุมอโศก-เพชรบุรี)

เบอร์โทร: 02-652-9898085-405-5552085-405-5553

เว็บไซต์: realichi.business.site

facebook: facebook.com/RealichiYakiniku.Sushi

instagram: instagram.com/realichi168


Sushi Masato (ซูชิ มาซาโตะ)

ซูชิวังหลัง

เป็นร้านที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดร้านซูชิ ด้วยฝีมือเชฟญี่ปุ่นระดับมิชลินสตาร์จากร้านที่นิวยอร์ก หากสนใจจะกินซูชิปั้นสด ๆ ร้านนี้ต้องโทรจองกันเป็นเดือน ๆ เลยทีเดียว ตัวร้านก็มีกลิ่นอายญี่ปุ่นสูงมาก เป็นร้านเล็ก ๆ ที่มีที่นั่งตรงเค้าเตอร์ 12 ตัว ซูชิทุกชิ้นจะทำสดขึ้นในเวลานั้นทำให้เชื่อมั่นในความสะอาดและ ความสดใหม่ได้มาก ๆ นอกจากนี้ร้านนี้เป็นร้านซูชิแบบโอมากาเสะ คือ การกินซูชิแบบผู้ทานเลือกหน้าไม่ได้ เชฟจะเป็นคนจัดแจงปั้นให้ พูดง่าย ๆ คือไปถึงไม่ต้องสั่งนั่งรอกินอย่างเดียว โดยร้านนี้ทางเชฟจะถามก่อนทำว่ามีหน้าซูชิไหนที่เราไม่กินไหม ถ้ามีเขาจะเปลี่ยนเป็นแบบอื่นให้

ที่ตั้ง: 3/22 ซอยสุขุมวิท 31 กรุงเทพมหานคร (อยู่ก่อนถึงร้าน Isao)

เบอร์โทร: 02-040-0015097-234-1370

email: info@sushimasato.com

เว็บไซต์: www.sushimasato.com


Umi (อุมิ)

หน้าซูชิ.

เป็นร้านแบบโอมากาเสะแบบร้านด้านบนแต่ร้านนี้ราคาถูกกว่า โดยเรทราคาจะเป็นตามนี้คอร์สซูชิ 8 คำ 2,200 บาทคอร์สซูชิ 12 คำ 2,800 บาท mini omakase 13 คำ 4,500 บาท ทุกคอร์ส มีเสิร์ฟ appetizer, ไข่หวาน และของหวานเป็นไอศครีมแยกต่างหาก ร้านนี้ไม่ต้องโทรจองสามารถ walk in เข้าไปได้เลยเพราะมีเชฟหลายคน ดังนั้นเข้าไปนั่งรอไม่นานก็ได้กิน

ที่ตั้ง: โครงการพิมาน 49 ซ.สุขุมวิท 49 ถนนสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร

เบอร์โทร: 02-662-6661

facebook: facebook.com/umi49


ซูชิ
ร้านซูชิ
หน้าซูชิ
ซูชิ ญี่ปุ่น
ซูชิวังหลัง
รีวิว ร้านซูชิ
อาหารญี่ปุ่น
ซูชิ สายพาน
ร้านอาหารซูชิ
ร้านอาหารญี่ปุ่น
ร้าน ซูชิ บุฟเฟ่ต์
ร้านซูชิสายพาน

We will be happy to hear your thoughts

Leave a reply

Top 10 Best
Logo